Top Headlines

มรภ.อุบลฯ พบผึ้งชนิดใหม่ของโลก "หยาดอำพันภูจองนายอย"


วันนี้ (24 มี.ค.2565) มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดแถลงข่าวการค้นพบผึ้งชนิดใหม่ของโลกจากอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จ.อุบลราชธานี 

ภาพ : Pakorn Nalinrachatakan

ภาพ : Pakorn Nalinrachatakan

 

ภาพ : Pakorn Nalinrachatakan

ภาพ : Pakorn Nalinrachatakan


ผึ้งหยาดอำพันภูจองฯ ถือเป็นผึ้งหายากที่รายงานการค้นพบครั้งแรกในโลกเมื่อปี 2564 ปัจจุบันยังค้นพบเฉพาะในผืนป่าของอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยในประเทศไทยเท่านั้น สำหรับตัวของผึ้งหยาดอำพันภูจองฯ นั้น จะมีลักษณะการดำรงชีวิตที่โดดเด่น เมื่อเทียบกับผึ้งให้น้ำหวานต่าง ๆ ที่มีการแบ่งวรรณะ มีนางพญา ผึ้งงาน ผึ้งเพศผู้ อาศัยอยู่กันในรังมาก ๆ แล้ว

กลับกันตัวผึ้งหยาดอำพันภูจองฯ จะมีการดำรงชีวิตแบบโดดเดี่ยว ซึ่งเพศเมียจะสร้างรังและดูแลอยู่เพียงลำพัง โดยจะมีการสะสมยางไม้มาใช้สร้างรัง เกิดเป็นท่อยางไม้ใสสวยงาม ภายในรังจะแบ่งเป็นห้อง ๆ ที่เพศเมียจะวางไข่ สะสมอาหาร (เรณู, น้ำหวาน) ไว้ให้ตัวอ่อนมาก ๆ แล้วปิดห้อง ไข่จะฟักเป็นตัวอ่อน กินอาหาร พัฒนาเป็นดักแด้ ผ่านกระบวนการเปลี่ยนสัณฐานพัฒนาเป็นผึ้งตัวเต็มวัยต่อไป

ภาพ : Pakorn Nalinrachatakan

ภาพ : Pakorn Nalinrachatakan

 

ภาพ : Pakorn Nalinrachatakan

ภาพ : Pakorn Nalinrachatakan


ผึ้งหยาดอำพันภูจองฯ เป็นผึ้งที่พบได้ยากในธรรมชาติ การสำรวจโดยคณะวิจัยของ ดร.ประพันธ์ ไตรยสุทธิ ที่ค้นพบผึ้งชนิดนี้นั้นก็ยังไม่เคยพบตัวผึ้งบินตามแหล่งอาหาร เช่น ทุ่งดอกไม้ต่าง ๆ ในอุทยานฯ อย่างบริเวณพลาญป่าชาด โดยแม้จะสำรวจพบผึ้งชนิดต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก และสำรวจมามากกว่า 20 รอบในช่วง 3 ปีมาแล้ว ก็ยังไม่พบผึ้งชนิดนี้ การพบตัวผึ้งหยาดอำพันภูจองฯ นั้นจึงมาจากการพบรังตามผาตัดที่มีโพรงดิน ใกล้แหล่งน้ำ เช่น บริเวณของแก่งกะเลา แล้วพบตัวผึ้งอยู่ในรังเพียงเท่านั้น

ผึ้งหยาดอำพันภูจองฯ ถูกตั้งชื่อเป็นเกีบรติแก่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ที่ซึ่งค้นพบผึ้งชนิดนี้เป็นครั้งแรก นับเป็นผึ้งหายากชนิดใหม่ของโลก ที่พบโดยบังเอิญจากการลองนำรังมาเลี้ยง โดยผึ้งชนิดนี้คล้ายเป็น "กาเหว่า" ในโลกของผึ้ง คือ มีการดำรงชีวิตเป็นปรสิตในระยะตัวอ่อน โดยที่จะแอบเข้ามาวางไข่ในรังของผึ้งเจ้าบ้าน จากนั้นตัวอ่อนของ "กาเหว่า" จะฟัก กินอาหารภายใน จัดการตัวอ่อนเจ้าบ้านทิ้ง แล้วจะเจริญเติบโตขึ้นมาแทนตัวผึ้งเจ้าบ้าน ในลักษณะใกล้เคียงกับนกกาเหว่า

ภาพ : Pakorn Nalinrachatakan

ภาพ : Pakorn Nalinrachatakan

 

ภาพ : Pakorn Nalinrachatakan

ภาพ : Pakorn Nalinrachatakan


ผึ้งชนิดนี้จะมีร่างกายสีโทนส้มแดงและมีลายสีดำตามร่างกาย รูปร่างสั้นป้อมสันทัด ความยาวลำตัวอยู่ที่ราว 8 มิลลิเมตร ขาคู่หน้ามีสีโทนส้มเหลือง ขณะที่คู่กลางและคู่หลังจะมีโทนน้ำตาลแดงเข้ม ปกคลุมขนสีดำ ส่วนท้ายของท้องจะมีขนสีเหลืองทองสั้น ๆ ปกคลุมอยู่

ทั้งนี้ จากการสำรวจโดยคณะวิจัย คาดการณ์ว่าผึ้งหยาดอำพันภูจองฯ น่าจะเลือกทำเลสร้างรังโดยคำนึงถึงแหล่งของยางไม้ที่ใช้สร้างรังเป็นหลัก สอดคล้องกับสภาพผืนป่าของอุทยานฯ ที่มีป่าเต็งรัง มีไม้เด่นที่ให้ยางไม้มากอย่างต้นชาด ผึ้งน่าจะเลือกอาศัยตามโพรงร้างเล็ก ๆ ที่มีอยู่ก่อนหน้า มีขนาดที่เหมาะสม นอกจากนี้ มักจะพบรังในที่ชื้น ใกล้กับแหล่งน้ำ คาดว่าผึ้งอาจใช้น้ำช่วยละลายดินตามผนัง จึงสามารถจัดแต่งภายในโพรงได้ง่ายขึ้น ให้สภาพโพรงเหมาะกับรัง

ภาพ : Pakorn Nalinrachatakan

ภาพ : Pakorn Nalinrachatakan


สำหรับงานวิจัยชิ้นนี้นำโดย ดร.ประพันธ์ ไตรยสุทธิ์ จากสาขาวิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี และ นายภากร นลินรชตกัณฑ์ จากภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพพื้นถิ่นในจังหวัดอุบลราชธานีที่ได้รับการสนับสนุนจาก สวทช.ในการพัฒนาพื้นที่อุทยานให้เป็นแหล่ง ecotourism ที่สำคัญของประเทศและของโลก

 

 

ที่มา thaipbs
ใหม่กว่า เก่ากว่า
;